สนับสนุน

วันพฤหัสบดีที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2557

กล่องเครื่องมือ Toolbox Photoshop


                กล่องเครื่องมือ Toolbox ซึ่งประกอบด้วยเครื่องมือต่าง ๆ ที่ใช้ในการวาดภาพ ตกแตกแต่งภาพ และแก้ไข ภาพ โดยบนปุ่มหนึ่ง ๆ จะมีปุ่มที่ซ่อนด้วยหลายเครื่องมือ หลายชิ้นอยู่รวมกัน
  การเปิด / ปิด Toolbox ทำได้โดยเลือกคำสั่ง Window > Tools
          กล่องเครื่องมือ Toolbox สำหรับการตกแต่งภาพ ประกอบด้วยเครื่องมือต่าง ๆ ดังนี้
เครื่องมือกลุ่ม Marquee
เครื่องมือกลุ่ม Dodge

เครื่องมือกลุ่ม Lasso
เครื่องมือกลุ่ม Palth Selection
เครื่องมือกลุ่ม Slice
เครื่องมือกลุ่ม Pen
เครื่องมือกลุ่ม Healing Brush
เครื่องมือกลุ่ม Type
เครื่องมือกลุ่ม Stamp
เครื่องมือกลุ่ม History Brush
เครื่องมือกลุ่ม Rectangel
เครื่องมือกลุ่ม Gradient
เครื่องมือกลุ่ม Note
เครื่องมือกลุ่ม Eyedropper
เครื่องมือกลุ่ม Blur

   รายละเอียดของเครื่องมือที่ใช้สำหรับตกแต่งรูปภาพ มีดังนี้
1.
  กลุ่มเครื่องมือการเลือก (Selection) ประกอบด้วย
Marquee
ใช้สำหรับเลือกพื้นที่บนภาพเป็นรูปสี่เหลี่ยม วงกลม วงรี หรือเลือกเป็นแถว
คอลัมน์ขนาด 1 พิเซล
Move
ใช้สำหรับย้ายพื้นที่ที่เลือกไว้ของภาพ หรือย้ายภาพในเลเยอร์หรือย้าย
เส้นไกด์
Lasso
ใช้เลือกพื้นที่บนภาพเป็นแนวเขตแบบอิสระ
Magic Wand
ใช้เลือกพื้นที่ด้วยวิธีระบายบนภาพ หรือเลือกจากสีที่ใกล้เคียงกัน
Crop
ใช้ตัดขอบภาพ
Slice
ใช้ตัดแบ่งภาพเพื่อบันทึกไฟล์ภาพย่อย ๆ ที่เรียกว่าสไลซ์ (Slice)
สำหรับนำไปสร้างเว็บเพจ
2.
กลุ่มเครื่องมือการแก้ไข (Edit) ประกอบด้วย
Healing Brush
ใช้ตกแต่งลบรอยตำหนิในภาพ
Clone Stamp
ใช้ทำสำเนาภาพ โดยก๊อปปี้ภาพจากบริเวณอื่นมาระบาย หรือ
ระบายด้วยลวดลาย
History Brush
ใช้ระบายภาพด้วยภาพของขั้นตอนเดิมที่ผ่านมา หรือภาพของสถานะ
เดิมที่บันทึกไว้
Eraser
ใช้ลบภาพบางส่วนที่ไม่ต้องการ
Gradient
ใช้เติมสีแบบไล่ระดับโทนสีหรือความทึบ
Blur
ใช้ระบายภาพให้เบลอ
Brush
ใช้ระบายลงบนภาพ
Dodge
ใช้ระบายเพื่อให้ภาพสว่างขึ้นหรือมืดลง
3.
กลุ่มเครื่องมือการสร้าง (Create) ประกอบด้วย
Pen
ใช้วาดเส้นพาธ (Path)
Horizontal Type
ใช้พิมพ์ตัวอักษรหรือข้อความลงบนภาพ
Path Selection
ใช้เลือกและปรับแต่งรูปทรงของเส้นพาธ
Rectangle
ใช้วาดรูปทรงเรขาคณิตหรือรูปทรงสำเร็จรูป
4.
กลุ่มเครื่องมือมุมมอง (View) ประกอบด้วย
Notes
ใช้บันทึกหมายเหตุกำกับภาพที่เป็นข้อความหรือเสียง
Eyedropper
ใช้เืลือกสีจากสีต่าง ๆ บนภาพ
Hand
ใช้เลื่อนดูส่วนต่าง ๆ ของภาพ
Zoom
ใช้ย่อหรือขยายมุมมองภาด
5.
กลุ่มเครื่องมือเลือกสี (Color) ประกอบด้วย
Set Foreground Color, Set Background Color ใช้สำหรับกำหนดสี
Foreground Color และ  Background Color





ขอบคุณ http://krukorawee.com/photoshopcs3/unit1.3.html


ระบบปฏิบัติการวินโดวส (Window XP)

การใช้งานเบื้องต้น Adobe photoshop cs5


การ Update Windows xp




ปัจจุบัน ได้มีการรุกรานของสิ่งที่เป็นอันตรายต่อคอมพิวเตอร์และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์มากมาย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็คือ เวริ์ม (worm) และไวรัส (Virus) คอมพิวเตอร์ ซึ่งจะเห็นได้ว่าในช่วงระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา มีการระบาดอย่างหนักของเวิร์ม เช่น W32.Sobig.F@mm (20 สิงหาคม 2546), W32.Nachi.Worm (19 สิงหาคม 2546), W32.Blaster.Worm (12 สิงหาคม 2546), W32.Mimail.A@mm (4 สิงหาคม 2546) ซึ่งความเสียหายดังกล่าวก็คือ มีการส่งอีเมล์ออกไปมากมายจากเครื่องที่มีเวิร์มอยู่ในเครื่องนั้น ๆ ซึ่งทำให้เครือข่ายคอมพิวเตอร์ทำงานอย่างหนัก เป็นผลทำให้ประสิทธิภาพในการใช้เครือข่ายสื่อสารลดน้อยลง




สาเหตุที่เป็นดังนี้เพราะ ผู้ที่ประสงค์จะทำลายระบบเครือข่ายได้อาศัยช่องโหว่ของโปรแกรมระบบปฏิบัติการ Windows ได้ส่งเวิร์มโดยอาศัยช่องโหว่ของระบบปฏิบัติการ ซึ่งบริษัทไมโครซอฟต์เองซึ่งเป็นผู้ผลิตระบบปฏิบัติการ Windows ก็ได้มีการแก้ไขส่วนที่เป็นช่องโหว่อยู่เสมอ จะเห็นได้ว่า เมื่อมีการแก้ไขโปรแกรมที่สามารถจะปิดช่องโหว่ได้เมื่อไหร่ ในระบบปฏิบัติการ Windows เอง ก็จะส่งสัญญาณเตือนให้เราได้ทำการ update windows เพื่อปิดช่องโหว่นั้น แต่ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ได้ละเลยในส่วนนี้ไป ซึ่งหากเมื่อมีการส่งสัญญาณดังกล่าว ก็จะปรากฏ Message ให้ Update Windows ซึ่ง ได้สร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งก็จะทำการปิดโปรแกรมนี้เลย ซึ่งหากเราได้ทำการ Update Windows ทุกครั้งที่มีการเตือนแล้ว โอกาสที่จะมีปัญหากับเวิร์มหรือไวรัสเข้ามาแทรกแซงการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ก็จะมีน้อยลง หรือแทบจะไม่มีเลย
เครื่องมือ Windows Update สามารถช่วยการทำงานให้ง่ายขึ้นโดยการให้บริการดูแลเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้และองค์กรผ่านระบบ และยังทำหน้าที่อัพเดตอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ในเครือข่ายด้วยไดรเวอร์ ,Service Pack และโปรแกรมเสริมต่างๆ ที่ออกแบบมาให้สามารถใช้ได้กับคอมพิวเตอร์ที่ออนไลน์อยู ่ เวอร์ชันใหม่ล่าสุดโดยอัตโนมัติโดย
วิธีการทำ Windows Update

1. เปิดโปรแกรม Intrnet Explore
2. เข้าเมนู Tool เลือก Windows Update ดังรูป


3. จากนั้นโปรแกรมจะเปิดเวบไซต์ Microsoct.com หากมีข้อความให้เลือก Yes
4. จะปรากฏดังรูป



4. ให้เลือก Scan for updates จากนั้นเครื่องจะทำการค้นหาว่าเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นยังไม่ได้ลงโปรแกรม อัพเดตตัวใดแล้วจะแสดงดังรูป

->

หากตัวเลข Critical Updated and service Packs ด้านซ้ายมือมากกว่าศูนย์แสดงว่าเครื่องนั้นจำเป็นด้องอัพเดต
ซึ่งสามาถทำได้โดยคลิกที่ Review and install updates ดังรูป
จากนั้นเครื่องจะขึ้นให้ติดตั้งโปรแกรมอัพเดตซึ่งจะดาวน์โหลดจากไซต์ของ Microsoft.com ดังนั้นจะเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับความเร็วของอินเตอร์เน็ตของท่าน
นอกจากนี้ท่านยังสามารถกำหนดให้เครื่องอัพเดตตัวเองได้โดยทำตามขั้นตอนดังนี้การทำ Automatic Windows Updates สามารถทำได้โดยคลิกขวาที่ My Computer เลือก Properties จะปรากฏหน้าต่างดังรูปให้เลือกแทบ Automatic Updates และแสดงตัวเลือกดังนี้



หมายเลข1 เลือกเมื่อต้องการให้ทำ Automatic Updates
หมายเลข2 เลือกเมื่อต้องการให้ถามก่อนดาวน์โหลดและถามอีกครั้งก่อนติดตั้งโปรแกรมอัพเดต
หมายเลข3 เลือกเมื่อต้องการให้ถามก่อนติดตั้งโปรแกรมอัพเดต ซึ่งปกติจะเลือกตัวเลือกนี้
หมายเลข4 เลือกเมื่อต้องการให้ติดตั้งโปรแกรมอัพเดตโดยไม่ต้องถามใดๆทั้งสิ้น

จากนั้นให้คลิกปุ่ม OK และจากนั้นทุกครั้งวินโดวส์จะตรวจสอบและทำตามตัวเลือกที่ท่านเลือก โดยที่ท่านไม่ต้องเสียเวลา อัพเดตวินโดวส์ด้วยตัวเอง


ขอบคุณ http://www.ku.ac.th/virus/update/


เทคโนโลยีสารสนเทศ

เทคโนโลยีสารสนเทศ




บทบาทความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ
     ความก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทำให้มีการพัฒนาคิดค้นสิ่งอำนวยความสะดวกสบายต่อการดำชีวิตเป็นอันมาก เทคโนโลยีได้เข้ามาเสริมปัจจัยพื้นฐานการดำรงชีวิตได้เป็นอย่างดี เทคโนโลยีทำให้การสร้างที่พักอาศัยมีคุณภาพมาตรฐาน สามารถผลิตสินค้าและให้บริการต่าง ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์มากขึ้น เทคโนโลยีทำให้ระบบการผลิตสามารถผลิตสินค้าได้เป็นจำนวนมากมีราคาถูกลง สินค้าได้คุณภาพ เทคโนโลยีทำให้มีการติดต่อสื่อสารกันได้สะดวก การเดินทางเชื่อมโยงถึงกันทำให้ประชากรในโลกติดต่อรับฟังข่าวสารกันได้ตลอดเวลาพัฒนาการของเทคโนโลยีทำให้ชีวิตความเป็นอยู่เปลี่ยนไปมาก ลองย้อนไปในอดีตโลกมีกำเนินมาประมาณ 4600 ล้านปี เชื่อกันว่าพัฒนาการตามธรรมชาติทำให้เกิดสิ่งมีชีวิตถือกำเนินบนโลกประมาณ 500 ล้านปีที่แล้ว ยุคไดโนเสาร์มีอายุอยู่ในช่วง 200 ล้านปี สิ่งมีชีวิตที่เป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์ ค่อย ๆ พัฒนามา คาดคะเนว่าเมื่อห้าแสนปีที่แล้วมนุษย์สามารถส่งสัญญาณท่าทางสื่อสารระหว่างกันและพัฒนามาเป็นภาษา มนุษย์สามารถสร้างตัวหนังสือ และจารึกไว้ตามผนึกถ้ำ เมื่อประมาณ 5000 ปีที่แล้ว กล่าวได้ว่ามนุษย์ต้องใช้เวลานานพอสมควรในการพัฒนาตัวหนังสือที่ใช้แทนภาษาพูด และจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์พบว่า มนุษย์สามารถจัดพิมพ์หนังสือได้เมื่อประมาณ 5000 ปีที่แล้ว กล่าวได้ว่าฐานทางประวัติศาสตร์พบว่า มนุษย์สามารถจัดพิมพ์หนังสือได้เมื่อประมาณ 500 ถึง 800 ปีที่แล้ว เทคโนโลยีเริ่มเข้ามาช่วยในการพิมพ์ ทำให้การสื่อสารด้วยข้อความและภาษาเพิ่มขึ้นมาก เทคโนโลยีพัฒนามาจนถึงการสื่อสารกัน โดยส่งข้อความเป็นเสียงทางสายโทรศัพท์ได้ประมาณร้อยกว่าปีที่แล้ว และเมื่อประมาณห้าสิบปีที่แล้ว ก็มีการส่งภาพโทรทัศน์และคอมพิวเตอร์ทำให้มีการใช้สารสนเทศในรูปแบบข่าวสารมากขึ้น ในปัจจุบันมีสถานที่วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ แ ละสื่อต่าง ๆ ที่ใช้ในการกระจ่ายข่าวสาร มีการแพร่ภาพทางโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเพื่อรายงานเหตุการณ์สด เห็นได้ชัดว่าเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทอย่างมาก บทบาทของการพัฒนาเทคโนโลยีรวดเร็วขึ้นเมื่อมีการพัฒนาอุปกรณ์ทางด้านคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ จะเห็นได้ว่าในช่วงสี่ห้าปีที่ผ่านมาจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งมีคอมพิวเตอร์เข้าไปเกี่ยวข้องให้เห็นอยู่ตลอดเวลา






รูปแสดงการติดต่อสื่อสารผ่านดาวเทียม


    นักเรียนลองจินตนาการดูว่า นักเรียนเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีด้านใดบ้างจากตัวอย่างต่อไปนี้ เมื่อตื่นนอนนักเรียนอาจได้ยินเสียงจากวิทยุ ซึ่งกระจายเสียงข่าวสารหรือเพลงไปทั่ว นักเรียนใช้โทรศัพท์สื่อสารกับเพื่อน ดูรายการทีวี วีดีโอเมื่อมาโรงเรียนเดินทางผ่านถนนที่มีระบบไฟสัญญาณที่ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ ถ้าไปศูนย์การค้า ขึ้นลิฟต์ ขึ้นบันไดเลื่อนซึ่งควบคุมการทำงานด้วยคอมพิวเตอร์ ที่บ้านนักเรียน นักเรียนอาจอยู่ในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศที่ควบคุมอุณหภูมิโดยอัตโนมัติ คุณแม่ทำอาหารด้วยเตาอบซึ่งควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ซักผ้าด้วยเครื่องซักผ้า จะเห็นว่าชีวิตในปัจจุบันเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีเป็นอันมาก อุปกรณ์เหล่านี้ส่วนใหญ่ใช้ระบบคอมพิวเตอร์เป็นส่วนประกอบในการทำงาน


รูปแสดงเครื่องอำนวยความสะดวกภายในบ้าน


ในอดีตยุคที่มนุษย์ยังเร่ร่อน มีอาชีพเกษตรกรรม ล่าสัตว์ ต่อมามีการรวมตัวกันสร้างเมือง และสังคมเมืองทำให้เกิดอุตสาหกรรมการผลิต การผลิตทำให้เกิดการปฏิวัติทางอุตสาหกรรมที่เน้นการผลิตจำนวนมาก สังคมจึงเป็นสังคมเมืองที่มีอุตสาหกรรมเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่หลังจากปี พ.ศ. 2530 เป็นต้นมา ระบบสื่อสารโทรคมนาคมและคอมพิวเตอร์ก้าวหน้ามาก ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคสังคมสารสนเทศ ชีวิตความเป็นอยู่เกี่ยวข้องกับข้อมูลข่าวสารจำนวนมาก การสื่อสารโทรคมนาคมกระจายทั่วถึง ทำให้ข่าวสารแพร่กระจ่ายไปอย่างรวดเร็ว สังคมในปัจจุบันเป็นสังคมไร้พรมแดนเพราะเรื่องราวของประเทศหนึ่งสามารถกระจายแพร่ออกไปยังประเทศต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว

     นิยามเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศคำว่าเทคโนโลยี หมายถึง การประยุกต์เอาความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์มาใช้ให้เกิดประโยชน์ การศึกษาพัฒนาองค์ความรู้ต่าง ๆ ก็เพื่อให้เข้าใจธรรมชาติ กฎเกณฑ์ของสิ่งต่าง ๆ และหาทางนำมาประยุกต์ให้เกิดประโยชน์ เทคโนโลยีจึงเป็นค้าที่มีความหมายกว้างไกล เป็นคำที่เราได้พบเห็นและได้ยินอยู่ตลอดมาลองนึกดูว่าทรายที่เราเห็นอยู่บนพื้นดิน ตามชายหาด ชายทะเลเป็นสารประกอบของซิลิกอน ทรายเหล่านั้นมีราคาต่ำและเรามองข้ามไป ครั้งมีบางคนที่เรียนรู้วิธีการแยกสกัดเอาสารซิลิกอนให้บริสุทธิ์ และเจือสารบางอย่างให้เกิดเป็นสิ่งที่เรียกว่าสารกึ่งตัวนำ นำมาผลิตเป็นทรานซิสเตอร์ และไอซี (Integrated Circuit : IC) ไอซีนี้เป็นอุปกรณ์ที่รวมวงจรอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมากไว้ด้วยกัน ใช้เป็นชิพซึ่งเป็นส่วนสำคัญของคอมพิวเตอร์ สารซิลิกอนดังกล่าวเมื่อผ่านกรรมวิธีทางเทคโนโลยีแล้วจะมีราคาสูงสามารถนำมาขายได้เงินเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเทคโนโลยีจึงเป็นหัวใจของการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เพราะเรานำเอาวัตถุดิบมาผ่านเทคนิคการดำเนินการ จะได้วัตถุสำเร็จรูป สินค้าเหล่านี้จะมีมูลค่าเพิ่มจากวัตถุดิบนั้นมาก ประเทศใดมีเทคโนโลยีมากมักจะเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว เทคโนโลยีจึงเป็นหาทางที่จะช่วยในการพัฒนาให้สินค้าและบริการมีมูลค่าเพิ่มขึ้น ทุกประเทศจึงให้ความสำคัญของการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้ามาช่วยงานด้านต่าง ๆส่วนคำว่าสารสนเทศ หมายถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ มนุษย์แต่ละคนตั้งแต่เกิดมาได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก เรียนรู้สภาพสังคมความเป็นอยู่ กฎเกณฑ์และวิชาการ ลองจินตนาการดูว่าภายในสมองของเราเก็บข้อมูลอะไรบ้าง เราคงตอบไม่ได้ แต่สามารถเรียกเอาข้อมูลมาใช้ได้ ข้อมูลที่เก็บไว้ในสมองเป็นสิ่งที่สะสมกันมาเป็นเวลานาน ความรอบรู้ของแต่ละคนจึงขึ้นอยู่กับการเรียกใช้ข้อมูลนั้น ดังนั้นจะเห็นได้ชัดความรู้เกิดจากข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ทุกวันนี้มีข้อมูลรอบตัวเรามาก ข้อมูลเหล่านี้มาจากสื่อ เช่น วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่การสื่อสารระหว่างบุคคล จึงมีผู้กล่าวว่ายุคนี้เป็นยุคของสารสนเทศ







รูปแสดงสื่อที่ช่วยในการรับส่งข้อมูล


ภายในสมองมนุษย์ซึ่งเป็นที่เก็บข้อมูลไว้มากมายจะมีข้อจำกัดในการจัดเก็บ การเรียกใช้ การประมวลผล และการคิดคำนวณ ดังนั้นจึงมีผู้พยายามสร้างเครื่องจักรเครื่องมือ เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการจัดการสารสนเทศ เช่นเครื่องคอมพิวเตอร์ซึ่งสามารถเก็บข้อมูลไว้ในหน่วยความจำได้มาก สามารถให้ข้อมูลได้แม่นยำและถูกต้องเมื่อมีการเรียกค้นหา ทำงานได้ตลอดวันไม่เหน็ดเหนื่อย และยังส่งข้อมูลไปได้ไกลและรวดเร็วมาก เครื่องจักรอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับสารสนเทศนั้นมีมากมายตั้งแต่เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์รอบข้าง ระบบสื่อสารโทรคมนาคมสมัยใหม่ ทำให้เกิดงานบริการที่อำนวยความสะดวกต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น การฝากถอนเงินผ่านเครื่องเอทีเอ็ม (Automatic Teller Machine : ATM) การจองตั๋วดูภาพยนตร์ การลงทะเบียนเรียนในโรงเรียนเมื่อรวมคำว่าเทคโนโลยีกับสารสนเทศเข้าด้วยกัน จึงหมายถึงเทคโนโลยีที่ใช้จัดการสารสนเทศ เป็นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องตั้งแต่การรวบรวมการจัดเก็บข้อมูล การประมวลผล การพิมพ์ การสร้างรายงาน การสื่อสารข้อมูล ฯลฯ เทคโนโลยีสารสนเทศจะรวมไปถึงเทคโนโลยีที่ทำให้เกิดระบบการให้บริการ การใช้ และการดูแลข้อมูลเทคโนโลยีสารสนเทศจึงมีความหมายที่กว้างขวางมาก นักเรียนจะได้พบกับสิ่งรอบ ๆ ตัวที่เกี่ยวกับการใช้สารสนเทศอยู่มาก ดังนี้


  • การแสดงผลลัพธ์ อุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีในการแสดงผลลัพธ์มีมาก สามารถแสดงเป็นตัวหนังสือ เป็นรูปภาพ ตลอดจนพิมพ์ออกมาที่กระดาษ การแสดงผลลัพธ์มีทั้งที่แสดงเป็นภาพ เป็นเสียง เป็นวีดิทัศน์ เป็นต้น
    รูปแสดง การแสดงผลลัพท์ทางหน้าจอคอมพิวเตอร์
  • การทำสำเนา เมื่อมีข้อมูลที่จัดเก็บในสื่ออิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ การทำสำเนาจะทำได้ง่าย และทำได้เป็นจำนวนมาก ดังนั้นอุปกรณ์ช่วยในการทำสำเนา จัดได้ว่าเป็นเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เรามีเครื่องพิมพ์ เครื่องถ่ายเอกสาร อุปกรณ์การเก็บข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น จานบันทึก ซีดีรอม ซึ่งสามารถทำสำเนาได้เป็นจำนวนมาก
  • การสื่อสารโทรคมนาคม เป็นวิธีการที่จะส่งจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง หรือกระจายออกไปยังปลายทางครั้งละมาก ๆ ปัจจุบันมีอุปกรณ์ระบบสื่อสารโทรคมนาคมหลายประเภท ตั้งแต่โทรเลข โทรศัพท์ เส้นใยนำแสง เคเบิลใต้น้ำ คลื่นวิทยุไมโครเวฟ ดาวเทียม เป็นต้น
ลักษณะสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ
โดยพื้นฐานของเทคโนโลยีย่อมมีประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าได้ แต่เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับวิถีความเป็นอยู่ของสังคมสมัยใหม่อยู่มาก ลักษณะเด่นที่สำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศมีดังนี้
ผลของเทคโนโลยีสารสนเทศ

การกำเนิดของคอมพิวเตอร์เมื่อประมาณห้าสิบกว่าปีที่แล้ว เป็นก้าวสำคัญที่นำไปสู่ยุคสารสนเทศ ในช่วงแรกมีการนำเอาคอมพิวเตอร์มาใช้เป็นเครื่องคำนวณ แต่ต่อมาได้มีความพยายามพัฒนาให้คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์สำคัญสำหรับการจัดการข้อมูล เมื่อเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ได้ก้าวหน้ามากขึ้น ทำให้สามารถสร้างคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็กลง แต่ประสิทธิภาพสูงขึ้น สภาพการใช้งานจึงใช้งานกันอย่างแพร่หลาย ผลของเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีต่อชีวิตความเป็นอยู่และสังคมจึงมีมาก มีการเรียนรู้และใช้สารสนเทศกันอย่างกว้างขวาง ผลของเทคโนโลยีสารสนเทศโดยรวมกล่าวได้ดังนี้
เทคโนโลยีสารสนเทศมีผลเกี่ยวข้องกับทุกเรื่องในชีวิตประจำวัน บทบาทเหล่านี้มีแนวโน้มที่สำคัญมากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้เยาวชนคนรุ่นใหม่จึงควรเรียนรู้ และเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อจะได้เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศให้ก้าวหน้าและเกิดประโยชน์ต่อประเทศต่อไป

รวบรวมจาก หนังสือเรียนวิชาคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศพื้นฐาน ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี